ความสบายย่อมเดินตามหลัง ความลำบากเสมอ
แหล่งความรู้สู่ปวงชน
ความรู้คู่คุณธรรม
เคล็ดลับความสำเร็จจากมหาเศรษฐีโลกเพื่อความมั่งคั่งไม่รู้จบ
ทุกความสำเร็จไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ ความมั่งคั่งร่ำรวยไม่ได้มาจากโชคชะตา หนึ่งในวิธีคิดที่คนมั่งคั่งคิดต่างจากคนธรรมดา คือ คนมั่งคั่งรู้ว่าเค้ากุมชะตาชีวิตตัวเอง ในขณะที่คนธรรมดาเข้าใจว่าโชคชะตาถูกฟ้าลิขิตไว้แล้ว เปรียบเหมือนแมงกะพรุนที่ไม่สามารถบังคับทิศทางตัวเอง ได้แต่ล่องลอยไปตามกระแสน้ำทะเลและสิ่งแวดล้อม ตรงกันข้ามกับปลาแซลมอนที่ไม่เพียงเลือกทิศทางการเคลื่อนไหว ยังแหวกว่ายทวนกระแสน้ำสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง มาเรียนรู้ประสบการณ์และวิธีคิดของมหาเศรษฐีระดับโลกทั้ง 4ท่าน ที่ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีกุหลาบแต่อย่างใด ต่างที่มา ต่างอาชีพ ต่างถิ่นฐาน แต่สำคัญคือแนวคิดที่คล้ายกัน สิ่งนี้นำพาให้แต่ละท่านประสบความสำเร็จในเวทีโลกและไปยืนที่จุดสูงสุดของชีวิตได้เหมือนๆกัน
คาร์ลอส สลิม
"ใช้วิกฤตสร้างโอกาส"
มหาเศรษฐีหมื่นล้านชาวแมกซิกันที่เริ่มจากการเป็นเจ้าของร้านขายของชำจนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจโทรคมนาคม ที่ตอนนี้รวยเป็นอันดับหนึ่งแซงบิลเกต ด้วยกลยุทธ์กว้านซื้อธุรกิจทั้งของรัฐบาลและเอกชนที่ใกล้จะล้มในประเทศแมกซิโกที่อยู่ในช่วงทศวรรษที่ 80 มาปรับโครงสร้างใหม่ หรือ reengineering และบริหารจัดการจนสร้างผลกำไร ทำให้เค้าเป็นมหา เศรษฐีที่ผูกขาดแทบจะทุกธุรกิจในทุกภาคส่วนของแมกซิโกและขยายไปจนทั่วทวีปอเมริกา ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวมกว่า 69,000ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บิลเกต
"ทำในสิ่งที่เชื่อ มุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ"
เค้าเริ่มต้นสร้างบริษัทไมโครซอฟในทศวรรษที่ 70 ด้วยความเชื่อและแรงบันดาลใจที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราทุกคนมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้ทุกบ้านบนโลกนี้ หลายคนว่าเค้าบ้า แต่เมื่อเค้าตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย และมาบุกเบิกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจนถึงทุกวันนี้
ลีกาชิง
"สู้แล้วรวย"
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของฮ่องกง มีความฝันว่าอยากจะเป็นหมอแต่ด้วยความยากจนของครอบครัวหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้เค้านั้นเรียนจบแค่มัธยมต้นแล้วเริ่มต้นด้วยการสร้างตัวเป็น salesman ขายผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ตอนอายุ 17 เค้าได้ลงทุนเปิดโรงงานพลาสติกของตนเองแล้วขยายไปอสังหาริมทรัพย์ จนกลายเป็นอันดับหนึ่งของเกาะฮ่องกง เป็นเจ้าของธุรกิจบริหารท่าเรือ ตู้คอนเทนเนอร์สินค้า และธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม สิ่งที่ลีกาชิงยึดมั่นในการสร้างความสำเร็จก็คือ คำสัญญาสุดท้ายก่อนที่บิดาของเค้าจะเสียชีวิตตอนเค้าอายุ 13ปี เค้าได้บอกว่า ครอบครัวของเราต้องมีชีวิตที่ดีและสุขสบายตลอดกาล เค้าใส่ใจในการเรียนรู้และติดตามข่าวสารข้อมูล จนทำให้เค้านั้นประสบความสำเร็จในชีวิตและมีทรัพย์สินมากกว่า 24,000ล้าเหรียญสหรัฐฯ
สแตนลีย์โฮ
"ถ้าไม่สู้ก็แพ้"
เจ้าพ่อคาซิโนมาเก๊าเกิดในตระกูลทรงอิทธิพลของฮ่องกง แต่ชีวิตก็ได้พลิกผันเมื่อพ่อของเค้าถูกฟ้องล้มละลาย และพี่ชายสองคนก็ถูกฆ่าตาย ถูกญาติพี่น้องดูถูกจนเค้าสาบานกับตนเองว่า เค้าจะเอาชนะญาติพี่น้องและรวยให้ได้ในเวลา 10ปี เนิ่มต้นด้วยการตั้งใจเรียนจนได้ทุนของมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของฮ่องกง จากเด็กห้องบ๊วยก็ได้เริ่มต้นทำงานจากบริษัท import-export ขอญี่ปุ่นในมาเก๊า ตอนอายุ 20ปีเค้าได้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ รู้จักเก็บหอมรอมริบ และพัฒนาตนเองให้พูดได้หลายภาษา จนได้เป็นหุ้นส่วนบริษัทและทำทุกอย่างที่ทำให้เค้านั้นลบคำสบประหม่า จนมีเงินล้านก้อนแรกจากการค้าขาย รวมถึงการลักรอบนำสินค้าหนี้ภาษีจากจีน กิจการของเค้านั้นมีตั้งแต่บริษัทค้าทอง ของเล่น เหล็ก เครื่องบิน เคมีภัณฑ์ และธุรกิจเดินเรือ พร้อมกันนี้การดำเนินงานธุรกิจซื้อขายที่ดินในฮ่องกงก็เป็นของเค้าด้วย จุดพลิกผันครั้งสำคัญของสแตลีโฮเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1962 ซึ่งเค้าได้ชนะการประมูลกิจการผูกขาดบ่อนการพนันในมาเก๊า โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องดำเนินการทุกๆอย่างเพื่อให้มาเก๊านั้นกลายสภาพจากเกาะเล็กๆที่ไม่มีอะไรน่าสนใจให้เป็นเกาะที่ทุกคนรู้จักให้ได้ ซึ่งทำให้เค้ากลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่า 3,100 เหรียญสหรัฐฯ
ถึงเวลาแปลงร่างจากแมวกะพรุนเป็นปลาแซลมอน เข้าควบคุมชะตาชีวิตตนเอง เรียนรู้และพัฒนา สร้างอนาคตที่มั่งคั่งร่ำรวยไปด้วยกัน MoneyJourney ขออยู่เคียงข้างทุกๆคนนะคะ
ข้อมูล




สนใจสร้างระบบงานออนไลน์ คลิกเข้าชมที่นี่